สแตนเลส 304 คืออะไร

สแตนเลสเกรด 304 คืออะไร?

สแตนเลส 304 (Stainless Steel 304) คือสแตนเลสที่นิยมใช้มากที่สุดในอุตสาหกรรมทั่วโลก เพราะมีความสมดุลที่ดีระหว่าง

ความทนทาน, ความต้านทานการกัดกร่อน, ความปลอดภัยต่ออาหาร, และ ราคาที่เข้าถึงได้

องค์ประกอบทางเคมีโดยประมาณ

• โครเมียม (Cr): 18-20% >> ป้องกันสนิม

• นิกเกิล (Ni): 8-10.5% >> เพิ่มความเหนียวและทนกรด

• คาร์บอน (C): < 0.08% >> ลดความเปราะ

• เหล็ก (Fe) ส่วนที่เหลือ

ชื่อเรียมอื่น ๆ

• AISI 304

• SUS304

• เกรด 18/8 (18% Chrome / 8% Nickel)

 

จุดเด่นและคุณสมบัติที่ทำให้ 304 เหมาะกับงานอุตสาหกรรม

1) ทนทานต่อการกัดกร่อนสูง

เหมาะกับพื้นที่ที่มีความชื้น เช่น

ห้องครัว

• โรงงานอาหาร

• เบเกอรี่

• โรงพยาบาล

• โรงงานที่ใช้สารเคมีอ่อน ๆ

เพราะโครเมียมจะสร้างฟิล์มป้องกันผิวโลหะโดยอัตโนมัติ (Passive film)

2) ไม่เป็นสนิมง่าย

ในสภาพใช้งานทั่วไป สแตนเลส 304 แทบไม่เป็นสนิม แต่ต้องหลีกเลี่ยง

• น้ำเค็มจัด

• คลอรีนเข้มข้น

ซึ่งถ้าจำเป็นต้องทนคลอไรด์สูง ควรใช้ 316 แทน

3) เหมาะสำหรับงานที่ต้องใช้กับอาหาร

304 เป็น Food Grade เพราะ

• ไม่ปล่อยสารปนเปื้อน

• ไม่เกิดปฏิกิริยากับอาหาร

• ทำความสะอาดง่าย

• ผิววัสดุไม่ดูดซับกลิ่นและคราบ

4) รับแรงได้ดี / โครงสร้างแข็งแรง

ค่าความแข็งแรงดีกว่าอลูมิเนียมมาก และไม่แอ่นง่าย

เหมาะกับ

• โต๊ะสแตนเลส

• ชั้นวางของ

• เครื่องจักรโรงงาน

• ถาดเบเกอรี่

• โครงตู้ เตาอบ

5) ขึ้นรูปง่าย

304 สามารถ

• เชื่อมได้สวย

• ตัด พับ รีด ทำทรงรูปทรงโค้งได้ดี

• รองรับการปั๊มขึ้นรูปชิ้นส่วนได้ (เหมาะกับธุรกิจคุณเลย)

คุณสมบัติทางเทคนิค (Technical Specs)

เหมาะสำหรับใส่ในหน้าเว็บไซต์หรือสเปคสินค้า

หัวข้อ                                                                    ค่าโดยประมาณ 

ความหนาแน่น                                                           8.0 g/cm³

ความแข็งแรงดึง                                                        520 750 MPa

ความแข็งแรงคราก                                                      215 MPa

จุดหลอมเหลว                                                           1400 1450°C

ความทนทานความร้อน                                                  ใช้งานต่อเนื่อง ~ 870°C

เชื่อม                                                                     ทำได้ดีมาก

เกรดผิวที่นิยม                                                          #2B, #4 Hairline, BA

การใช้งานของสแตนเลส 304 ในอุตสาหกรรมต่าง ๆ

อุตสาหกรรมอาหารและเบเกอรี่ 

• ชั้นวางเบเกอรี่

• ถาดสแตนเลส / ถังผสม

• เครื่องนวดแป้ง เครื่องตีไข่

• เตาอบ / โครงสร้างเครื่องจักร

โต๊ะเตรียมอาหาร

เพราะต้องการวัสดุที่ ปลอดภัย ทำความสะอาดง่าย และไม่เป็นสนิม

อุตสาหกรรมการผลิตอุปกรณ์เครื่องใช้

• ตู้แช่

• เครื่องใช้ไฟฟ้า

• อุปกรณ์ห้องครัว

• อ่างล้างจาน

งานก่อสร้าง/ตกแต่ง

• เฟอร์นิเจอร์สแตนเลส

• ราวบันได

• งาน facade

ข้อจำกัดของสแตนเลส 304 (ที่หลายคนไม่รู้)

แม้ 304 จะดีมาก แต่ก็มีข้อจำกัด

• ไม่ทนคลอไรด์ >> โดนไอทะเลอาจมีสนิมผิว

• ราคาสูงกว่าเหล็กทั่วไป

• น้ำยาล้างที่มีคลอรีนเข้มข้นอาจทำให้เกิดจุดสนิม (Pitting)

• ผิวด้าน เช่น #2B อาจเป็นรอยง่าย ต้องใช้แบบ #4 ในงานโชว์ผิว

⭐ ทำไมโรงงานที่ผลิต ชั้นวาง โต๊ะสแตนเลส อุปกรณ์เบเกอรี่ ถึงเลือกใช้ 304?

เพราะเป็นวัสดุที่ให้ความคุ้มค่าสูงสุดในงานประเภทนี้

• แข็งแรงกว่าอลูมิเนียมเยอะ

• ดูดีแบบพรีเมียม

• อยู่ได้นานหลายสิบปี

• ปลอดภัยสำหรับอุตสาหกรรมอาหาร

• เชื่อมง่าย ทำงานง่าย

• ดูแลรักษาง่าย ไม่ต้องพ่นสี ไม่ต้องกันสนิม

1. สแตนเลส 304 คืออะไร? (จุดขายที่เหนือกว่า)
 

คำจำกัดความ: สเตนเลส 304 คือ Austenitic Stainless Steel ที่ได้รับความนิยมสูงสุดของโลก คิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 50% ของการใช้งานสเตนเลสทั้งหมด มีชื่อเรียกอีกอย่างว่า 18/8 Stainless Steel (เนื่องจากมีโครเมียม 18% และนิกเกิล 8%)

ทำไมต้อง 304: เป็นเกรดที่สมดุลที่สุดในด้านราคาและประสิทธิภาพ ให้ความทนทานต่อการกัดกร่อนสูงกว่า 430 และมีราคาที่เข้าถึงได้มากกว่า 316

จุดขายหลัก: เป็นเกรดที่ใช้ในอุปกรณ์ครัว, อุตสาหกรรมอาหาร, และทางการแพทย์ทั่วโลก เพราะให้ความมั่นใจเรื่อง ความสะอาดและความทนทานต่อสนิม

 

2. คุณสมบัติหลักที่ลูกค้าได้ประโยชน์โดยตรง
 

คุณสมบัติ (Feature)                                              

ทนทานต่อการกัดกร่อน (Corrosion Resistance)   :  

"ไร้สนิม 100% ตลอดอายุการใช้งาน" ทนทานต่อการเกิดสนิมและการกัดกร่อนจากน้ำ, ความชื้น, และสภาพแวดล้อมทั่วไป ลดต้นทุนการเปลี่ยนสินค้า

ความสะอาด (Hygienic)  : 

 "ปลอดภัยระดับ Food Grade" ผิวเรียบเนียน ไม่ทำปฏิกิริยากับอาหาร ไม่สะสมเชื้อโรคหรือแบคทีเรีย เหมาะสำหรับอุตสาหกรรมอาหารและยา

ทนความร้อน (Heat Resistance)   : 

"ทนทานต่ออุณหภูมิสูงและต่ำ" สามารถทนความร้อนได้สูงถึง $870^circ C$ และยังคงความแข็งแรงในอุณหภูมิเยือกแข็ง เหมาะสำหรับห้องเย็นหรือพื้นที่ใช้งานหนัก

ความยืดหยุ่น (Fabrication)  : 

"ขึ้นรูปและเชื่อมต่อได้ง่าย" มีคุณสมบัติในการขึ้นรูปที่ดีเยี่ยม (Excellent Formability) ทำให้สามารถผลิตสินค้าที่มีรูปทรงซับซ้อน หรือการสั่งผลิตตามดีไซน์เฉพาะ (Custom Order) ได้อย่างสมบูรณ์แบบ

ความเงางาม (Aesthetics)  : 

"พื้นผิวเงางามและดูแลรักษาง่าย" มีความมันวาว สวยงาม และง่ายต่อการทำความสะอาด เพียงเช็ดด้วยน้ำหรือน้ำยาทำความสะอาดทั่วไป ก็กลับมาเงางามเหมือนใหม่ได้เสมอ

คำถามที่พบบ่อย
Q / A ที่ลูกค้าถามบ่อยเกี่ยวกับสแตนเลส 304

Q: สแตนเลส 304 เป็นสนิมไหม?
A: โดยทั่วไปไม่เป็นสนิมง่าย เพราะมีโครเมียมช่วยป้องกันผิวโลหะ แต่ถ้าโดนคลอรีน น้ำทะเล หรือสารคลอไรด์สูง อาจเกิดจุดสนิมได้ ควรทำความสะอาดสม่ำเสมอ


Q: สแตนเลส 304 ต่างจาก 201 ยังไง?
A: 304 ทนสนิมดีกว่า แข็งแรงกว่า และเหมาะกับงานอาหาร ส่วน 201 ราคาถูกกว่าแต่คุณภาพต่ำกว่า หากใช้งานในครัวหรือโรงงานอาหารควรเลือก 304


Q: ทำไมสแตนเลส 304 ถึงราคาแพงกว่าเกรดอื่น?
A: เพราะมีนิกเกิลสูง ซึ่งช่วยเพิ่มความเหนียวและทนกรด ทำให้คุณภาพสูงกว่า อายุการใช้งานยาวกว่าเกรดอื่น


Q: สแตนเลส 304 ปลอดภัยสำหรับอาหารไหม?
A: ปลอดภัย 100% ไม่ทำปฏิกิริยากับอาหาร ไม่ดูดกลิ่น และทำความสะอาดง่าย เหมาะสำหรับอุตสาหกรรมอาหารและเบเกอรี่


Q: จะรู้ได้อย่างไรว่าสแตนเลสคือ 304 แท้?
A: ตรวจได้จากใบรับรองวัสดุ (Mill Cert), ทดสอบแม่เหล็ก (ไม่ดูด ยกเว้นจุดเชื่อม), หรือใช้เครื่อง XRF เป็นวิธีที่แม่นยำที่สุด


Q: การดูแลสแตนเลส 304 ต้องทำอย่างไร?
A: ทำความสะอาดเป็นประจำ หลีกเลี่ยงน้ำยาที่มีคลอรีน หากมีคราบสนิมผิวให้ใช้น้ำส้มสายชูหรือน้ำยาทำความสะอาดสำหรับสแตนเลสโดยตรง